จับตา “เซ็นทรัล” ยึดทำเลดีสุดยอด “ลาดพร้าว-พหลโยธิน” ทุ่มงบประมาณเชื่อมเมกะโปรเจ็กต์หมื่นล้าน
ฉับพลันที่บริษัท เซ็นทรัลปรับปรุง จำกัด (มหาชน) หรือ CPN แล้วก็บริษัท แกรนด์ ค้างแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ GLAND ซึ่งเซ็นทรัลได้เข้าไปซื้อหุ้นต่อจากบีทีเอส ประกาศแผนจะสร้างที่ดินรอบๆพหลโยธิน เยื้องกับดินแดนสร้าง พื้นที่ 48 ไร่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีพหลโยธิน 24  รวมทั้งห้าแยกลาดพร้าวปรับปรุงเป็นแผนการไม่กซ์ยูส ราคากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท มีครบอีกทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน รวมทั้งโฮเต็ล โดยเฟสแรกจะเริ่มจากห้างสรรพสินค้า
ก็เลยเป็นจับตาว่า ”เซ็นทรัล” จะตกลงใจเช่นไรกับที่ดินเขตพหลโยธิน พื้นที่ 47.22 ไร่ ซึ่งเช่าในชื่อบริษัท เซ็นทรัลอินเตอร์พัฒนา จำกัด ในเครือกรุ๊ปเซ็นทรัล

ปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้ง ”ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว” แล้วก็ “โฮเต็ลเซ็นทาราแกรนด์แอทเซ็นทรัลพลาซา” กำลังจะถึงกำหนดคำสัญญาวันที่ 18 ธ.ค. 2571 หรืออีก 6 ปีด้านหน้า
“นิรุฒ มณีพันธ์” ผู้ว่าการรฟท.(การรถไฟแห่งประเทศไทย) กล่าวมาว่า เดี๋ยวนี้ทางเซ็นทรัล ยังมิได้มีการปรึกษาหารือและขอคำแนะนำมายัง การรถไฟแห่งประเทศไทยเรื่องสัญญาเช่าที่ดินเซ็นทรัลลาดพร้าว เนื่องจากยังมีเหลือเวลาอีก 6 ปี กว่าคำสัญญาจะหมด อย่างไรก็ดี ที่ดินแปลงดังที่กล่าวมาข้างต้นได้โอนให้บริษัทลูกหมายถึงบริษัท เอสอาร์หน แอสเสท จำกัด เป็นผู้ดำเนินงาน
“อยู่ที่บริษัทลูกจะพูดจารายเดิม หรือเปิดประมูลใหม่ โดยต้องว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษามาประมาณมูลค่าโครงงานใหม่ให้ใส่รับกับภาวะพื้นที่เปลี่ยนไปๆมาๆกในขณะนี้ ซึ่งมีรถไฟฟ้ามาเชื่อม” นายนิรุฒกล่าว
ในเวลาที่ศูนย์ข่าวจาก การรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทางเซ็นทรัลเคยปรึกษาหารืออย่างไม่เป็นทางการว่ายังพึงพอใจที่ดินตรงเซ็นทรัล ลาดพร้าว แต่ว่าในขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะเปลี่ยนความคิดหรือเปล่า ภายหลังจากจัดเตรียมขึ้นโครงงานใหม่ที่อยู่ตรงกันข้ามกับดินแดนสร้าง ซึ่งยังมีเวลาเหลืออีกนับเป็นเวลาหลายปี ทางเซ็นทรัลยังมีเวลาไตร่ตรอง ดังนี้ ถ้าเกิดเซ็นทรัลไม่ต่อก็จำต้องเปิดประมูลใหม่

“คาดว่าเซ็นทรัลอาจไม่ทิ้งที่ดินตรงเซ็นทรัลลาดพร้าว เนื่องจากเป็นทำเลดี มีรถไฟฟ้ามาเชื่อม แม้กระนั้นการลงทุนปรับปรุงบางทีก็อาจจะจะต้องลงทุนเยอะขึ้น ด้วยเหตุว่าการต่อสัญญาคราวนี้ จำเป็นต้องบนรากฐานราคาใหม่ที่จำเป็นต้องจ่ายมากยิ่งกว่าครั้งที่2 ที่จ่ายผลตอบแทนรวมตลอดอายุข้อตกลง 20 ปี (19 เดือนธันวาคม2551-18 เดือนธันวาคม2571) เป็นเงินกว่า 21,298 ล้านบาท “ที่มาของข่าวพินิจพิจารณา
ศูนย์ข่าวยังพินิจพิจารณาถัดไปว่า นอกจากนั้นตึกก็ค่อนข้างจะเก่า แก่ 50 ปี ถ้าจะรีโนเวตบางทีก็อาจจะไม่คุ้ม อาจะจะต้องลงทุนครั้งใหญ่โดยตีของโบราณแล้วสร้างใหม่ราวกับเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ดุสิต ซึ่งต้องหารือด้วยกันก่อนข้อตกลงจะหมด ซึ่งในคำสัญญามิได้กล่าวว่า จึงควรสนทนากับเซ็นทรัลรายแรก จะบอกเพียงแค่ว่าในตอน 3 ปีกลายหมดสัญญาจึงควรตระเตรียมมอบอะไรให้รถไฟบ้าง ไม่เหมือนกับคราวแรกที่บอกว่าจำต้องสนทนากับเซ็นทรัลเป็นรายแรก ในช่วงเวลาที่ครั้งที่ 2 จัดการตาม พระราชบัญญัติร่วมหุ้นฯ ส่วนครั้งที่ 3 จะสนทนาตรง หรือประมูลใหม่ก็ได้แล้วก็ได้รับการละเว้นไม่เข้าพระราชบัญญัติร่วมหุ้นฯ

ที่มาของข่าวพูดว่า ปัจจุบันนี้เซ็นทรัลจ่ายค่าเช่าทุกวี่ทุกวันที่ 18 ธ.ค.ของทุกปี โดยก่อนหน้าที่ผ่านมา การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ค่าใช้จ่ายในการเช่าระหว่างปี 2551-2564 เป็นวงเงินกว่า 10,000 ล้านบาท ยังเหลือราว 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปี ปี 2565 ปริมาณ 1,234.961 ล้านบาท ปี 2566 ปริมาณ 1,309.059 ล้านบาท ปี 2567 ปริมาณ 1,387.603 ล้านบาท ปี 2568 ปริมาณ 1,470.859 ล้านบาท ปี 2569 ปริมาณ 1,559.111 ล้านบาท ปี 2570 ปริมาณ 1,652.658 ล้านบาท และก็ปี 2571 ปริมาณ 1,751.817 ล้านบาท
ด้านที่มาของข่าวจากกรุ๊ปเซ็นทรัล บอกว่า ในเวลานี้ยังไม่มีหลักการเด่นชัด อย่างไรก็แล้วแต่ มั่นใจว่าจะยังคงต่อสัญญาเช่ากับ การรถไฟแห่งประเทศไทยออกไปอีก เนื่องจากห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว คนละเซ็กเมนต์กับแผนการใหม่ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับดินแดนสร้าง ซึ่งปรับปรุงเป็นไม่กซ์ยูส มีห้างสรรพสินค้า อพาร์เม้นท์ อาคารสำนักงาน ซึ่งจะเจาะกรุ๊ปลูกค้าระดับไฮเอนด์ แม้ที่ดินจะมิได้อยู่ชิดกัน ก็บางครั้งก็อาจจะสามารถสินเนอร์ยี่กันได้ อาจจะจำต้องใคร่ครวญกันอีกครั้งภายหลังจากนี้ ยังมีเวลาเพราะเหตุว่าสัญญาเช่ายังเหลืออีกยาวนานหลายปี
อีกไม่นานเกินคอยคงจะได้รู้กัน!